วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2552

เอรีส (Ares)




อาเรส หรือ เอรีส (Ares) มาร์ส (Mars) เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม และอาวุธ
อาเรส หรือ เอรีส (Ares) หรือที่ชาวโรมันเรียกว่า มาร์ส (Mars) เป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม และ อาวุธชุดเกราะ นอกจากนี้ยัง เป็นหนึ่งในสิบสองเทพแห่งโอลิมปัสด้วย โดยเป็นบุตรองค์หนึ่งของเทพซุส กับเจ้าแม่ ฮีรา และ เป็นที่เกลียดชัง ของเทพ และมนุษย์ทั้งปวงเว้นแต่ชาวโรมัน ผู้มีนิสัยชอบการสงคราม
อาเรส เป็นเทพแห่งการสงครามเช่นเดียวกับ อาเธน่า แต่ทว่าอาเธน่า จะได้รับการยกย่องและบูชามากกว่า เนื่องจาก อาเธน่าเป็นเทพีที่ใช้สติปัญญาวางแผนในการสู้รบมากกว่า ซึ่งได้รับการบูชาในฐานะเทพีแห่งสติปัญญาด้วย ผิดกับ อาเรส ซึ่งมักจะใช้ความดุดันและโหดร้ายในการสงครามมากกว่า ซึ่งโฮเมอร์ กวีเอกคนสำคัญของกรีกโบราณ ยังเคยเขียนถึงพระองค์ว่า เป็นเทพที่โหดร้ายและหยาบช้า
ชาวโรมันเทิดทูนสดุดีเทพองค์นี้ยิ่งนัก ถึงกับอุปโลกน์ให้เป็นเทพบิดาของ โรมิวลัส (Romulus) ผู้สร้างกรุงโรม และพรรณาสรรเสริญเกียรติคุณนานัปการ ตรงกันข้ามกับชาวกรีก ซึ่งนอกจากจะไม่นิยมเลื่อมใสเทพองค์นี้แล้ว ยังถือว่า เป็นเทพที่มีสันดานป่าเถื่อนดุร้าย ปราศจากความเมตตากรุณาเสียอีก
อาเรสเป็นโอรสขององค์เทพซุสกับฮีร่าเทวี และทรงเป็นโอรสที่เทพบิดาซุส ตรัสใส่หน้าเลยว่า "เจ้าเป็นที่น่าชังที่ สุดในบรรดาลูกของข้า ทั้งโหดร้าย ดื้อด้านเหมือนแม่เจ้าไม่ผิด!" ซึ่งวาทะประโยคนี้นับว่าวิจารณ์อุปนิสัยใจคอของ อาเรสได้ตรงเป็นที่สุด นอกจากโหดร้ายและดื้อดึง อาเรสยังบุ่มบ่าม โกรธง่าย และนิยมความรุนแรงมาก นับว่า เป็นอุปนิสัยที่ แตกต่างกับ เอเธน่า มากซึ่งเป็นเทวีแห่งสงครามเหมือนกัน เอเธน่านั้นสุขุม เฉลียวฉลาด และ กล้าหาญ จึงได้รับการ ยกย่องทั่วทุกหนแห่ง เป็นเหตุให้อาเรสเกิดจิตริษยาเอามาก
เป็นที่น่าสังเกตอย่างหนึ่งเกี่ยวกับอาเรสองค์นี้ คือในฐานะที่เป็นเทพแห่งสงคราม ตามปกติหากรบที่ไหน ต้องมีชัยที่นั่น แต่ผิดถนัดสำหรับเทพองค์นี้ หากว่าอาเรส รบที่ไหนปราชัยที่นั่นมากกว่า จนน่าประหลาดใจ นอกจากจะพ่ายแพ้ แก่เทวีเอเธน่าแล้ว ยังแพ้มนุษย์อีกด้วย อาทิเช่น วีรบุรุษเฮอร์คิวลิส เคยสังหารโอรส ของอาเรสมาแล้ว ครั้นผู้เป็นพ่อเข้าช่วยลูก ก็ถูกต่อยตีจนต้องหลบหนีขึ้นไปบนโอลิมปัสแทบไม่ทัน เมื่อนำเรื่อง ทูลฟ้องซุสเทพบดี ซุสก็ตัดสินไกล่เกลี่ยให้เลิกรากันไป เนื่องจากแท้ที่จริง เฮอร์คิวลิส ก็เป็นโอรสของซุส เช่นเดียวกัน เพียงแต่มีมารดาเป็นมนุษย์สามัญ
เทพอาเรสมักเสด็จไปไหน ๆ โดยรถศึกเทียมม้าฝีเท้าจัดมากมาย แสงเกราะ และแสงศาตราวุธส่องแสงเจิดจ้า บาดตาผู้พบเห็น มีบริวารที่ติดสอยห้อยตามอยู่ 2 คนคือ เดมอส (Deimos) ซึ่งแปลว่าความกลัว กับ โฟบอส (Phobos) แปลว่าความน่าสยองขวัญ บริวารนี้บางตำนานกล่าวว่าเป็นโอรสของเทพอาเรส ในทาง ดาราศาสตร์ เมื่อตั้งชื่อ ดาวอังคารว่า มาร์ส ตามชื่อเทพแห่งสงครามแล้ว ก็เลยตั้งชื่อดวงจันทร์บริวารทั้งสองของดาวอังคารว่า เดมอส กับ โฟบอสตามตำนานไปด้วยเลย และชื่อของทั้งคู่ก็เป็นรากศัพท์ของคำว่า ความตื่นตระหนก (Panic) และ ความกลัว (Phobia) ด้วย



ในด้านความรักของอาเรสนั้นเร่รักไปเรื่อย เช่นเดียวกับเทพบุตรอื่นๆ ในโอลิมปัส ไม่ได้ยกย่องใครเป็นชายา แต่มีเรื่อง รักสำคัญของอาเรสอยู่ครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้น ได้แก่การลักลอบเป็นชู้กับเทวีแห่งความงาม และความรักนาม อโฟรไดท์
เมื่ออาเรส เป็นที่เกลียดชังของเทพและมนุษย์ (ชาวกรีก) เช่นนั้น พฤติการณ์ตอนเป็นชู้กับเทวี
อโฟรไดท์
จึงเป็นที่ครหารุนแรง และมวลเทพก็คอยจ้องจับผิด ก็เพราะความมืดของราตรีกาลเป็นใจ ตราบใดเธอ หลบไปได้ ก่อนดวงอาทิตย์ของอพอลโลไขแสง หากยังจับไม่ได้คาหนังคาเขา ตราบนั้นพฤติการณ์เช่นนี้ก็ยังคง เป็นความลับ
อาเรส กลัวอยู่ก็แต่แสงสว่าง ซึ่งเปรียบประดุจนักสืบของเทพอพอลโลเท่านั้น ถ้านักสืบนั้นแฉ พฤติการณ์ออกไป ให้แก่เทพอพอลโลแล้ว เทพอพอลโลก็คงจะนำความไปบอก แก่เทพฮีฟีสทัส ถึงกรณี ที่ อาเรส ลักลอบกับคบกับ เทวีอโฟรไดท์ อาเรสจึงวางยามไว้คนหนึ่ง ให้คอยปลุกเมื่อใกล้รุ่ง ผู้ทำหน้าที่นี้คือ หนุ่มน้อยชื่อว่า อเล็กไทรออน (Alectryon)


ในคราวที่ความจะแตก อเล็กไทรออนหลับยามเพลินไปจนรุ่งเช้า เป็นเหตุให้อพอลโล เห็นอาเรสกับอโฟรไดท์ นอนหลับอยู่ด้วยกัน อพอลโลจึงนำความไปบอกแก่เทพ
ฮีฟีสทัส ฮีฟีสทัสสานร่างแหเหล็กเตรียมไว้ก่อนแล้ว พอได้ความดังนั้น ก็หอบ ร่างแหไปทอดครอบอาเรสกับอโฟรไดท์ ไว้ให้เทพทั้งปวงมาดูและหัวเราะเยาะอย่าง ครื้นเครง แล้วจึงปล่อยไป ฝ่ายอาเรสได้รับ ความอัปยศอดสูท่ามกลางธารกำนัลยิ่งนัก จึงสาปอเล็กไทรออน ให้กลายเป็นไก่ ทำหน้า ที่คอยขันยามในเวลาใกล้รุ่งทุกคืน เป็นการลงโทษในการที่หลับยาม ด้วยเหตุนี้ไก่ผู้ทุกตัว ที่เกิดขึ้นในโลก จึงสืบสกุลมาจากไก่อเล็กไทรออนตัวแรกนั้นทั้งสิ้น และผลของการอภิรมย์ของคู่นี้ ทำให้ เทวีอโฟร์ไดท์ ประสูติธิดาออกมาองค์หนึ่งนามว่า อาร์โมเนีย ซึ่งต่อมาได้ เป็นราชินีแห่งนครธีบส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น